Support
ข้าวกล้อง ไร้สาร
086-3265553
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

มีน้ำมันมะรุมจะสบาย108พันประการ

Kanyagon2010@hotmail.com | 18-01-2558 | เปิดดู 1210 | ความคิดเห็น 5

 

 

 

 

น้ำมันมะรุม บริสุทธิ์100%

 

 

#น้ำมันมะรุม

ด้วยกรรมวิธี #บีบเย็น #สรรพคุณ..ใช้ #ทาผิวหนัง #รักษา #โรคผิวหนัง จาก #เชื้อรา และ #เชื้อไวรัส รักษา #โรคเริม #งูสวัด รักษาและ #บำรุงผิวพรรณ ให้ #ชุ่มชื้น ใช้ทารักษา #แผลสด #หูด #ตาปลา ใช้ #ถูนวด #บรรเทา #อาการ... บริเวณที่ #ปวดบวม ตามข้อ รักษา #โรคไขข้ออักเสบ #เก๊าท์#รูมาติก เป็นต้น


#ชะลอความแก่
กล่าว กันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้
คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin และ quercetin)
สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylquinic acids) ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ
ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสาร
#ต้านอนุมูลอิสระ #ชะลอ การ #เสื่อม สภาพในเซลล์ร่างกาย

#ฆ่าจุลินทรีย์
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตโคไซด์และเบนซิลกลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ. 2507 จากมะรุมมีฤทธิ์
ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู ปัจจุบันหลังจากค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิด
โรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษาสารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว

#การป้องกันมะเร็ง
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ชนิดหนึ่งและสารไนอาซิไมซิน (niazimicin) จากมะรุมสามารถ
ต้านการเกิดมะเร็งที่ถูกกระตุ้นโดยสารฟอบอลเอสเทอร์ในเซลล์ มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้รับฝักมะรุมเป็นอาการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจาก การกระตุ้นน้อยกว่า
กลุ่มทดลอง โดยกลุ่มที่กินมะรุมเนื้องอกบนผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มควบคุม

ฤทธิ์ #ลดไขมัน และ #คอเลสเทอรอล
จาก

จากการทดลอง 120 วัน ให้กระต่ายกินฝักมะรุม วันละ 200 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันเทียบกับ
ยาโลวาสแตทิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันและให้อาหารไขมันมาก


ทั้งนี้ กลุ่มที่กินมะรุมและยามีคอเลสเทอรอลฟอสโฟไลพิด ไตรกลีเซอไรด์ VLDL LDL ปริมาณ
คอเลสเทอรอลต่อฟอสโฟไลพิด และ atherogenic index ต่ำลง ทั้ง 2 กลุ่มมีการสะสมไขมันในตับ
หัวใจ และหลอดเลือดแดงใหญ่ (เอออร์ตา) โดยกลุ่มควบคุมปัจจัยด้านการสะสมไขมันในอวัยวะเหล่านี้
ไม่มีค่าลดลงแต่อย่างใด กลุ่มที่กินมะรุมพบการขับคอเลสเทอรอลในอุจจาระเพิ่มขึ้น ผู้วิจัยจึงสรุปว่า
การกินมะรุมมีผลลดไขมันในร่างกาย ที่ประเทศอินเดียมีการใช้ใบมะรุมลดไขมันในคนที่มีโรคอ้วนมาแต่เดิม
การศึกษาการกินสารสกัดใบมะรุมในหนูที่กินอาหารไขมันสูงมีปริมาณคอเลสเทอรอลในเลือดลดลงอย่าง
มีนัยสำคัญเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้กลุ่มทดลองมีปริมาณไขมันในตับและไตลดลง
สรุปว่าการให้ใบมะรุมเพื่อลดปริมาณไขมันทางการแพทย์อินเดียสามารถวัดผลได้ในเชิงวิทยาศาสตร์จริง

ฤทธิ์ป้องกันตับ
งานวิจัยการให้สารสกัดแอลกอฮอล์ของใบมะรุมกรณีทำให้ตับหนูทดลอง เกิดความเสียหายโดย
ไรแฟมไพซิน พบว่าสารสกัดใบมะรุมมีฤทธิ์ป้องกันตับ โดยมีผลกับระดับเอนไซม์แอสาเทตอะมิโน
ทรานสเฟอเรส อะลานีน ทรานมิโนทรานสเฟอเรส อัลคาไลน์ฟอสฟาเทส และบิลิรูบินในเลือด
และมีผลกับปริมาณไลพิดและไลพิดเพอร์ออกซิเดสในตับ โดยดูผลยืนยันจากการตรวจชิ้นเนื้อตับ
สารสกัดใบมะรุมและซิลิมาริน (silymarin กลุ่มควบคุมบวก) มีผลช่วยการพักฟื้นของการ
ถูกทำลายของตับจากยาเหล่านี้


เอกสารอ้างอิง:
Nature’s Medicine Cabinet by Sanford Holst
The Miracle Tree by Lowell Fuglie
LA times March 27th 2000 article wrote by Mark Fritz. WWW.PUBMED.GOV.
(Search for Moringa) (Antiviral Research Volume 60, Issue 3, Nov. 2003,
Pages 175-180: Depts. of Microbiology, Pharmaceutical Botany,
Pharmacology, Faculty of Pharmaceutical Science,
Chulalongkorn University, Bangkok.

นิตยสารหมอชาวบ้านปีที่ 29 ฉบับที่ 338 มิถุนายน 2550

 

 

 

 

 

 

ประโยชน์อื่นจากมะรุม

 

ขายมันมะรุมติดต่อ086-3265553มะรุม ฯ

ใบมะรุมมีคุณค่าทางอาหารสูง เหมาะสาหรับคนทุกเพศและวัย ในบางประเทศ เช่น เซเนกาลและเฮติ บุคลากรทางการสาธารณสุขจะใช้ผงของใบมะรุมตากแห้งในการรักษาภาวะทุพลภาพในเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ใบมะรุมทั้งรูปแบบดิบ ทาให้สุกแล้ว หรือตากแห้ง มีวิตามินและเกลือแร่ปริมาณสูงมาก Fuglie รายงานว่าผงใบแห้งขนาด 8 กรัม เพียงพอสาหรับเด็กอายุ 1-3 ปี เพราะมีโปรตีน (14%) แคลเซียม (40%) เหล็ก (23%) และวิตามินเอ ซึ่งเด็กต้องการในแต่ละวัน และใบขนาด 100 กรัม สามารถให้ปริมาณแคลเซียมถึงหนึ่งในสามที่ผู้หญิงต้องการในแต่วัน และยังให้ธาตุเหล็ก โปรตีน ทองแดง กามะถัน และวิตามินบีด้วย

 

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 มีการศึกษาคุณค่าทางอาหารของมะรุม และรวบรวมคุณค่าทางอาหารเปรียบเทียบระหว่างของผล (ฝัก) ใบสด และใบแห้งของมะรุม ปริมาณ 100 กรัม ไว้ดังนี้

คุณค่าทางอาหาร

และจากการเปรียบเทียบคุณค่าทางอาหารของใบมะรุมกับอาหารชนิดอื่น พบว่าใบมะรุมมีวิตามินเอมากกว่าแครอท มีแคลเซียมมากกว่าน้านม มีธาตุเหล็กมากกว่าผักโขม มีวิตามินซีมากกว่าส้ม และมีโปแตสเซียมมากกว่ากล้วย เป็นต้น

เนื่องจากมะรุมเป็นพืชที่มีธาตุอาหารปริมาณสูงมาก ในบางประเทศมีการส่งเสริมให้นามะรุมมารับประทานเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อป้องกันและรักษาภาวะทุพ-โภชนาการดังนั้นจึงมีการค้นคว้าและวิจัยอย่างกว้างขวางเพื่อที่จะนาพืชชนิดนี้มาใช้รักษาความเจ็บป่วยของมนุษย์

คุณค่าทางยาและฤทธิ์ทางชีวภาพของมะรุม

มะรุม มีสารพฤกษเคมีที่หลากหลาย เช่น glucosinolates, isothiocyanates, alkaloids (moringine และ moringinine), flavonoids (kaemferol, rhamnetin, isoquercitrin และ kaempferitrin), -sitosterol ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์ทางชีวภาพ จึงทาให้มะรุมมีฤทธิ์ชีวภาพที่น่าสนใจ เช่น ลดความดัน (antihypertensive) ลดไขมันในเส้นเลือด แก้ปวดเกร็งในช่องท้อง รักษาแผลในทางเดินอาหาร ป้องกันตับ ต้านแบคทีเรียและรา ต้านเนื้องอก ต้านมะเร็ง เป็นต้น

มีรายงานพบว่าสาร Nitrile, mustard oil glycosides และ thiocarbamate glycosides ซึ่งสกัดแยกได้จากใบมะรุม มีฤทธิ์ลดระดับความดันโลหิต ซึ่งสารที่พบในกลุ่มนี้ทั้งหมดเป็นสารในกลุ่ม glycosides ที่ผ่านปฏิกิริยา acetylation และพบปริมาณน้อยในธรรมชาติ แต่มีความสำคัญทางเภสัชวิทยา และเมื่อทาการสกัดใบมะรุมด้วยตัวทาละลาย ethanol และแยกสารสำคัญ จากสารสกัดดังกล่าว พบว่าได้สารบริสุทธิ์ 4 ชนิด ได้แก่ niazinin A, niazinin B, niazimicin และ niazinin A+B ซึ่งทั้งหมดแสดงฤทธิ์ลดความดันโลหิตในหนูทดลอง(8) รวมไปถึงมีการศึกษาค้นคว้าฤทธิ์ชีวภาพของสารสกัดใบมะรุม ทั้งนี้มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้มีการผลิตเพื่อเป็นยาสมุนไพร มีรายงานพบว่าใบมะรุม เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ดี เนื่องจากพบกลุ่มของสารดังกล่าว เช่น vitamin C, α-tocopherol, flavonoids, phenolics, carotenoids ซึ่งชะลอความเสื่อมของเซลล์และป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังพบ สารกลุ่ม oestrogenics และ β-sitosterol อยู่เป็นปริมาณมาก ซึ่งแสดงถึงความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาใบมะรุม และฝักมะรุม เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

แนวทางการพัฒนาสมุนไพรมะรุมเป็นผลิตภัณฑ์

ปัจจุบันมะรุมกาลังได้รับความนิยมอย่างสูงในการนามารับประทานเป็นอาหารต้านโรค หรือเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และมีศักยภาพที่จะได้รับการส่งเสริมให้เป็นยาสมุนไพรต่อไป แต่เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานที่จะใช้ควบคุมหรือตรวจสอบคุณภาพของสมุนไพรดังกล่าว

การนาสมุนไพรมาใช้เป็นยา หรือส่งเสริมเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น สิ่งที่จาเป็นคือต้องแน่ใจว่าเป็นสมุนไพรชนิดนั้นจริง และจาเป็นต้องมีการควบคุมมาตรฐานของสมุนไพรที่นามาปรุงเป็นยาในแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ายาสมุนไพรที่ได้มีคุณสมบัติหรือฤทธิ์ทางการรักษาตามที่ต้องการเหมือนกันทุกครั้ง มาตรฐานของสมุนไพรบางชนิดกำหนดไว้ใน Thai Herbal Pharmacopoeia นอกจากนี้ยังศึกษาได้จากหลักการทั่วไปในการประกันคุณภาพยาจากสมุนไพร ตามมาตรฐานของประเทศเยอรมัน (German Commission E) รวมถึงแนวทางขององค์การอนามัย

โลก (World Health Organization; WHO) ที่เกี่ยวกับการควบคุมมาตรฐานของสมุนไพร โดยการควบคุมมาตรฐานสมุนไพรส่วนใหญ่จะตรวจสอบเอกลักษณ์ว่าเป็นพืชชนิดนั้นจริงโดยดูจากลักษณะภายนอกและลักษณะเฉพาะของยาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ การตรวจสอบสิ่งปลอมปน การตรวจหาปริมาณสารสำคัญ การหาปริมาณความชื้นและน้าหนักที่หายไปเมื่อทาให้แห้ง การตรวจหาปริมาณเถ้า การหาสารตกค้างที่เป็นยาฆ่าแมลง และการหาสิ่งปนเปื้อนรวมทั้งเชื้อก่อโรค เป็นต้น

ดังนั้นแนวทางการพัฒนาหรือยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรมะรุมจึงจาเป็นต้องจัดทาข้อกำหนดทางเภสัชเวทและมาตรฐานของมะรุมที่ปลูกในประเทศไทย และจาเป็นต้องศึกษาข้อมูลพื้นฐานชนิดของสารสำคัญที่มีฤทธิ์ชีวภาพที่พบในสารสกัดใบมะรุม และปริมาณสารสำคัญดังกล่าวที่พบในธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดมาตรฐานวัตถุดิบสมุนไพร

ยกตัวอย่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศอินเดีย ได้มีการกำหนดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหารจากใบมะรุม โดยมีการวิเคราะห์คุณภาพสารอาหารในใบมะรุม โดยผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวในขนาดรับประทานแต่ละครั้งประกอบด้วย β-carotene 3955 μg (equivalent to retinol 665 μg), ascorbic acid 46 mg และ iron 1.6 mg ซึ่งการกำหนดคุณภาพดังกล่าวทาให้ผลิตภัณฑ์อาหารจากใบมะรุมมีมูลค่าสูงขึ้นในแง่ของการผลิตในระดับอุตสาหกรรม

ดังนั้นข้อมูลทางด้านเภสัชเวทของสมุนไพรและการจัดทามาตรฐานสมุนไพรมะรุมถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์มะรุมที่สนใจรับประทานได้ หรือเพื่อให้ผู้ผลิตใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการผลิตสมุนไพรมะรุมที่มีคุณภาพต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้สมุนไพรไทยมีมาตรฐานและศักยภาพในการแข่งขันกับสมุนไพรต่างประเทศ

คุณค่าทางอาหาร ผล (ฝัก) ใบสด ใบแห้ง
ความชื้น (%) 86.9 75 7.5
พลังงาน (calories) 26 92.0 205.0
โปรตีน (กรัม) 2.5 6.7 27.1
ไขมัน (กรัม) 0.1 1.7 2.3
คาร์โบไฮเดรต (กรัม) 3.7 13.4 38.2
เส้นใย (กรัม) 4.8 0.9 19.2
เกลือแร่ (กรัม) 2.0 2.3 -
แคลเซียม (มิลลิกรัม) 30.0 440.0 2003.0
แมกนีเซียม (มิลลิกรัม) 24.0 24.0 368.0
ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) 110.0 70.0 204.0
โปแตสเซียม (มิลลิกรัม) 259.0 259.0 1324.0
ทองแดง (มิลลิกรัม) 3.1 1.1 0.6
เหล็ก (มิลลิกรัม) 5.3 0.7 28.2
กรดออกซาลิก (มิลลิกรัม) 10.0 101.0 0.0
กามะถัน (มิลลิกรัม) 137 137 870

 

คุณค่าทางอาหาร ผล (ฝัก) ใบสด ใบแห้ง
ปริมาณวิตามิน (Vitamin contents)
วิตามินเอ-เบต้าแคโรทีน (มิลลิกรัม) 0.1 6.8 16.3
วิตามินบี-โคลีน (มิลลิกรัม) 423.0 423.0 -
วิตามินบี1 (มิลลิกรัม) 0.05 0.21 2.6
วิตามินบี2 (มิลลิกรัม) 0.07 0.05 20.5
วิตามินบี3 (มิลลิกรัม) 0.2 0.8 8.2
วิตามินซี (มิลลิกรัม) 120 220.0 17.3
วิตามินอี (มิลลิกรัม) - - 113.0
ปริมาณกรดอะมิโน (Amino acid contents)
อาร์จินีน (มิลลิกรัม) 360 406.6 1325
ฮีสติดีน (มิลลิกรัม) 110 149.8 613
ไลซีน (มิลลิกรัม) 150 342.4 1325
ทริปโตแฟน (มิลลิกรัม) 80 107 425
ฟีนิลอลานีน (มิลลิกรัม) 430 310.3 1388
เมทไธโอนีน (มิลลิกรัม) 140 117.7 350
ธรีโอนีน (มิลลิกรัม) 390 117.7 1188
ลิวซีน (มิลลิกรัม) 650 492.2 1950
ไอโซลิวซีน (มิลลิกรัม) 440 299.6 825
วาลีน (มิลลิกรัม) 540 374.5 1063

เอกสารอ้างอิง

1. Mughul MH, Ali G, Srivastava PS, Iqbal M. 1999. Improvement of drumstick (Moringa pterygosperma Gaertn.) – a unique source of food and medicine through tissue culture. Hamdard Med 42: 37-42.

2. Siddhuraju P, Becker K. 2003. Antioxidant properties of various solvent extracts of total phenolic constituents from three different agro-climatic origins of drumstick tree (Moringa oleifera Lam.). J Agric Food Chem 15: 2144-2155.

3. Estrella MCP, Mantaring JBV, David GZ. 2000. A double blind, randomized controlled trial on the use of malunggay (Moringa oleifera) for augmentation of the volume of breastmilk among non-nursing mothers of preterm infants. Philipp J Pediatr 49: 3-6.

4. Singh KK, Kumar K. Ethnotherapeutics of some medicinal plants used as antipyretic agent among the tribals on India. J Econ Taxon Bot 23: 135-141.

5. Fuglie LJ. 2005. The Moringa Tree: a local solution to malnutrition? Church World Service in Senegal.

6. http://www.dolcas-biotech.com/pdf/Moringa.pdf access on 24 April 2009

7. Fahey JW. 2005. Moringa oleifera: A Review of the Medical Evidence for Its Nutritional, Therapeutic, and Prophylactic Properties. Part 1. Tree for Life Journal 1: 5-19.

8. Jansakul C., Wun-Noi A., Croft K. and Byrne L. 1997. Pharmacological studies of thiocarbamate glycosides isolated from Moringa oleifera. J. Sci. Soc. Thailand 23: 335-346.

9. Makkar HPS. and Becker K. 1996. Nutritional value and antinutritional components of whole and ethanol extracted Moringa oleifera leaves. Anim Feed Sci Technol 63: 211-228.

10. Nambiar VS. and Parnami S. 2008. Standardization and Organoleptic Evaluation of Drumstick (Moringa oleifera) Leaves Incorporated into Traditional Indian Recipes. Trees for Life Journal 3: 1-7.

 

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5/307834602748538?hc_location=timeline

ความคิดเห็น

วันที่: Wed May 08 05:24:54 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 5 Pages: 1/1
guest

2015-01-18 16:57:58.0 Post : 2015-01-18 16:57:58.0

 

สรุปสรรพคุณต่างๆ ของน้ำมันมะรุม
1. ใช้ปรุงอาหารเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก แต่ดีกว่า เพราะไม่มีกลิ่นเหม็นหืนภายหลัง
2. ช่วยบำรุงผิวหนังที่แห้งให้ชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม และช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิว
3. ช่วยรักษาโรคเชื้อราตามผิวหนัง เช่น น้ำกัดเท้า และผิวแห้งเพราะเชื้อรา
4. ช่วยรักษาแผลถูกมีดบาด หรือแผลสดเล็กๆ น้อย ๆ
5. ลดอาการผื่นคันตามผิวหนัง และอาการแพ้ผ้าอ้อมของเด็กอ่อน
6. ลดอาการปวดบวมของโรคไขข้ออักเสษ โรคเก๊าท์
7. ช่วยรักษาแผลในปากหรือแผลของโรคปากนกกระจอก
8. ใช้นวดกระชับกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
9. ช่วยบรรเทาอาการเกิดสิวบนใบหน้า
10. ช่วยลบรอยจุดด่างดำของผิวอันเป็นผลจากการโดนแดดหรือการเสื่อมสภาพตามวัย
11. ใช้นวดศรีษะ รักษาโรคเชื้อราบนหนังศรีษะ บรรเทาอาการผมร่วงง่าย และอาการคันศรีษะ
12. ช่วยถอนพิษแมลงกัดต่อย ผู้เขียนประสบโดยตรงกับตนเอง คนในบ้าน 2 คน ถูกผึ้งต่อยหลังจากทานำมันมะรุม อาการปวดหายไปทันที ส่วนอาการบวมก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
13. บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามบั่นเอวและขา เนื่องจากการยืนนาน ๆ อาการปวดตามไหล และปวดศรีษะ

Quote

guest

2015-01-27 13:34:58.0 Post : 2015-01-27 13:34:58.0

 


#น้ำมันมะรุม บริสุทธิ์100%
ด้วยกรรมวิธี #บีบเย็น #สรรพคุณ..ใช้ #ทาผิวหนัง #รักษา #โรคผิวหนัง จาก #เชื้อรา และ #เชื้อไวรัส รักษา #โรคเริม #งูสวัด รักษาและ #บำรุงผิวพรรณ ให้ #ชุ่มชื้น ใช้ทารักษา #แผลสด #หูด #ตาปลา ใช้ #ถูนวด #บรรเทา #อาการ บริเวณที่ #ปวดบวม ตามข้อ รักษา #โรคไขข้ออักเสบ #เก๊าท์#รูมาติก เป็นต้น

#ชะลอความแก่
กล่าว กันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้
คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin และ quercetin)
สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylquinic acids) ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ
ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสาร
#ต้านอนุมูลอิสระ #ชะลอ การ #เสื่อม สภาพในเซลล์ร่างกาย

#ฆ่าจุลินทรีย์
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตโคไซด์และเบนซิลกลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ. 2507 จากมะรุมมีฤทธิ์
ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู ปัจจุบันหลังจากค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิด
โรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษาสารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว

#การป้องกันมะเร็ง
(โปรดติดตามตอนต่อไป..)

 

https://plus.google.com/u/0/b/106884564332414799750/106884564332414799750

Quote

guest
DDDDDDDDD
- Guest -

2015-01-27 22:37:31.0 Post : 2015-01-27 22:37:31.0

Quote

guest
ยอมรับ
- Guest -

2015-02-05 20:27:33.0 Post : 2015-02-05 20:27:33.0

หน้าเกิ้ล https://www.google.co.th/search?q=ricebyching&newwindow=1&safe=off&ei=L27TVKKDFI_08QWbiYDIBQ&start=10&sa=N&biw=1093&bih=502

 

 

https://www.google.co.th/search?newwindow=1&safe=off&site=&source=hp&q=ricebyching&oq=ricebyching&gs_l=hp.3..35i39.3722.15509.0.15825.5.5.0.0.0.0.689.1801.0j1j1j1j1j1.5.0.msedr...0...1c.1.61.hp..2.3.1225.0.Ze0toYeglmE

 

 

หน้าหลัก https://www.google.co.th/search?newwindow=1&safe=off&q=ricebyching%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C&oq=ricebyching%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C&gs_l=serp.3..30i10.30407.36433.0.39219.13.13.0.0.0.0.305.2607.0j2j8j1.11.0.msedr...0...1c.1.61.serp..3.10.2383.C_osRZC18Ko

 

 

https://www.google.co.th/search?newwindow=1&safe=off&q=%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87ricebyching%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C&oq=%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87ricebyching%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C&gs_l=serp.3...73637.82059.0.84671.16.16.0.0.0.0.0.0..0.0.msedr...0...1c.1.61.serp..16.0.0.QFyTKt1G6PY

Quote

guest
Nui
- Guest -

2015-09-06 15:35:31.0 Post : 2015-09-06 15:35:31.0

 ขายยังงัยค่ะ

Quote

1

 

 

 

ขายข้าวอินทรีย์นานาชนิด Riceฯ
ข้าวไรซ์เบอรี่ ฯ
ข้าวฮาง(ข้าวนิล) ฯ
ข้าวกล้องฯ
ทั้งส่งทั้งปลีก
ส่งฟรีทั่วไทย
ส่งตรงจากชาวนา
ติดต่อ
Tel:090-9610626,089-9096579,086-3265553